ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สเปน vs รัสเซีย
วันที่ 1 กรกฏาคม 2018
สนาม โอลิมปิกลุจนีกี
เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
วิเคราะห์ฟุตบอล สเปน vs รัสเซีย
ทีมชาติ รัสเซีย เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 ที่ก่อนเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้ถูกวิจารณ์ต่างๆ นานา ในเรื่องประเด็นที่ว่าเข้ารอบเพราะเป็นเจ้าภาพและสภาพทีมยังไม่พร้อมสำหรับศึกใหญ่แบบนี้ แต่ทว่าทีมหมีขาวก็ได้ตอกกลับไปด้วยการประเดิมสนามนัดเปิดงานด้วยการถล่ม ซาอุดิอาระเบีย 5-0 ตามด้วยชนะอียิปต์ 3-1 ซึ่งการันตรีผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายตั้งแต่นัดที่สองบอกได้เลยว่าพวกเขาแน่นอนจริงๆ แม้ว่านัดสุดท้ายของอาวุธหนัก อุรุกวัย แพ้ไป 3-0 ทำให้ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ซึ่งต้องไปพบกับงานหินดวลกับ สเปน อย่างไรก็ดีอะไรก็เกิดขึ้นได้กับลูกกลมๆ แม้ว่าชื่อชั้นนักเตะจะห่างชั้นแต่ด้วยความที่เล่นในแผ่นดินตัวเอง พร้อมแฟนบอลมากมาย มันคงจะถือว่าเป็นความได้เปรียบที่จะช่วยทีมได้เยอะเลยทีเดียว
ทีมชาติ สเปน ถือว่าทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานเลยทีเดียว หลังจากเกมแรกเสมอ โปรตุเกส 3-3 ต่อมาชนะ อิหร่าน 1-0 และเสมอ โมร็อคโค 1-1 แต่ถึงอย่างไรก็ตามทัพกระทิงดุกระทิงดุก็ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์มาได้ด้วยตำแหน่งผู้นำกลุ่มกันเลยทีเดียว เนื่องจากสเปนได้ทำการเปลี่ยนผู้จัดการทีมแบบกระทันหันไม่กี่วันก่อนเปิดทัวร์นาเมนต์ บางทีนี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ยังเค้นฟอร์มแรงไม่ออกก็เป็นได้ ซึ่งพวกเขามีคิวพบรัสเซียในรอบ 16 ทีม และนี้ก็ถือว่าเป็นภาระที่ไม่น่าจะลำบากอะไร ถ้าทีมกระทิงมาในฟอร์มเก่งของเขาคงเตรียมตีตั๋วสู่รอบ 8 ทีมได้ไม่ลำบากเลย
สถิติการพบกัน
23 กันยายน 1998 สเปน 1-0 รัสเซีย (ฟุตบอลอุ่นเครื่องกระชับมิตร)
12 มิถุนยน 2004 สเปน 1-0 รัสเซีย (ฟุตบอลยูโร)
27 พฤษภาคม 2006 สเปน 0-0 รัสเซีย (ฟุตบอลอุ่นเครื่องกระชับมิตร)
10 มิถุนายน 2008 รัสเซีย 1-4 สเปน (ฟุตบอลยูโร)
26 มิถุนายน 2008 รัสเซีย 0-3 สเปน (ฟุตบอลยูโร)
14 พฤศจิกายน 2017 รัสเซีย 3-3 สเปน (ฟุตบอลอุ่นเครื่องกระชับมิตร)
สถิติการพบกันทั้งหมดของ ทีมชาติสเปน และ ทีมชาติรัสเซีย นั้นถือว่าทางทัพกระทิงได้เปรียบมากกว่า เพราะทีมหมีขาวไม่เคยเอาชนะสเปนได้เลยสักนัดเดียว ประกอบกับศักยภาพของนักเตะในทีมที่แตกต่างกัน ทัพกระทิงมาด้วยสตาร์ดังระดับโลกล้นทีม ส่วนรัสเซียนั้นไม่มีดาวเตะเวิล์ดคลาสเลย อาจจะได้เปรียบที่เล่นในบ้านและแฟนบอล แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วมองตามเหนือผ้าถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อค อัตราการต่อรองล่าสุดยกให้ ทีมชาติสเปน เป็นฝ่ายคว้าชัยในเกมนี้
เรื่องน่ารู้
- ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย รัสเซีย ยังไม่เคยเอาชนะ สเปน ได้เลย (เสมอ 2 แพ้4) ครั้งสุดท้ายที่พบกันคือเกมอุ่นเครื่องในเดือนพฤศจิกายน 2017 เสมอกันไป 3-3
- สเปน ยิง 10 ประตู ในสามเกมล่าสุดที่พบกับ รัสเซีย (7 ประตูจาก 2 เกมในยูโร 2008 กับอีก 3 ประตู จากเกมกระชับมิตรทีมชาติ พฤศจิกายน 2017)
- สเปน ไร้พ่ายต่อเนื่องมา 23 เกม (ชนะ 15 เสมอ 8) เป็นสถิติยาวนานที่สุดในกลุ่ม 32 ทีมที่เข้าร่วมเล่นฟุตบอลโลก 2018 ความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายของพวกเขาต้องย้อนกลับไปสองปีก่อน ในนัดพบ อิตาลี ยูโร 2016 รอบ 16 ทีมสุดท้าย (แพ้ 0-2 ในเดือน มิถุนายน 2018)
- นับตั้งแต่ในฟุตบอลโลก 2006 สเปน ครองบอลเหนือคู่แข่ง 32 จาก 33 เกมในรายการเมเจอร์ (ฟุตบอลโลก+ยูโร) มีเพียงเกมนัดชิง ยูโร 2008 กับ เยอรมัน เท่านั้นที่พวกเขาได้ครองบอล 46 %
- นี่เป็นฟุตบอลโลกรอบน็อคเอาท์ครั้งแรกของ รัสเซีย นับตั้งแต่แยกตัวออกมาจาก สหภาพโซเวียต – ถ้านับทุกรายการเมเจอร์ พวกเขาเคยเล่นรอบน็อคเอาท์เพียงครั้งเดียวโดยไปถึงรอบรองชนะเลิศ ยูโร 2008 ก่อนจะโดน สเป นจัดการ
11 ผู้เล่นตามคาด
สเปน (4-3-3) : ดาบิด เด เคอา – ดาเนียล การ์บาฆาล, เคราร์ด ปีเก้, เซร์คิโอ รามอส, จอร์ดี้ อัลบา – ฆอร์เค เรซูร์เรกซิออน โกเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อีเนียสต้า – ดาบิด ซิลบา, ดีเอโก้ คอสต้า, อีสโก้ อาลาร์กอน
รัสเซีย (4-2-3-1) : อีกอร์ อากินเฟเยฟ – มาริโอ แฟร์นานเดส, อิลยา คูเตปอฟ, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, เฟดอร์ คูดรียาชอฟ – โรมัน ซ็อบนิน, ยูริ กาซินสกี้ – ดาเลอร์ คูซยาเยฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, เดนิส เชรีเชฟ – เฟดอร์ สโมลอฟ
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
ติดตามเราจากโซเชียล Facebook Twitter Instagram และ YouTube
