เส้นทางการคว้าแชมป์ของ ซิตี้ และความผิดหวังของ อาร์เซนอล
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2024 อังกฤษเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน อย่างยิ่งใหญ่ หลังก่อนหน้านี้ขับเคี่ยวแชมป์กับ อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ได้สนุกจนต้องลุ้นถึงแมตช์สุดท้ายของเกมลีกลูกหนังแดนผู้ดี ก่อนที่ เรือใบสีฟ้า จะคว้าถ้วยฟุตบอลลีกอังกฤษ ไปนอนกอดได้อีกสมัย
ทางฝั่งเมืองแมนเชสเตอร์ ถูกย้อมเป็นสีฟ้า กับการคว้าแชมป์ครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของพวกเขา ทว่าฝั่งของลอนดอนเต็มไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความผิดหวัง เมื่อ อาร์เซนอล ทีมอันดับสองที่พยายามมอบความกดดันต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาตลอด กลับต้องอกหัก เมื่อล้มเหลวในการคว้าแชมป์โดยมีคะแนนห่างจ่าฝูงเพียงแค่สองแต้มเท่านั้น
มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ได้รับการยกย่องถึงฝีมือของเขาที่สามารถปลุก ปืนใหญ่ กลับมาเป็นทีมลุ้นคว้าแชมป์ โดยได้เพิ่มความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพให้กับทีมดาวรุ่งที่ยอดเยี่ยมของเขา
อาร์เซนอลหวังจะกลับไปคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2003/04 แม้ท้ายที่สุดจะปิดฉากด้วยความผิดหวังต่อไป แต่เมื่อมองย้อนกลับไป อาร์เซนอล ทำได้เกินความคาดหมายของทุกคน แต่การมีทีมอย่าง แมนฯซิตี้ ขวางหน้า จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะพุ่งไปหาเป้าหมายที่ตั้งไว้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกได้ 6 สมัยในรอบ 7 ปี หลังจากที่ไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกมา 5 เดือน อย่างไรก็ตาม การครองตำแหน่งยอดทีมของอังกฤษมาหลายปีของซิตี้ยังทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันของลีก โดยหลายทีมในเวลานี้เริ่มถอดใจต่อสู้แย่งแชมป์ แล้วหันมาแย่งชิงอันดับรองลงมาเพื่อโควต้าบอลยุโรปและอันดับกลางตารางแทน
กวาร์ดิโอล่า แย้งว่า แมนฯยูไนเต็ด และ เชลซี ใช้เงินมากกว่า แมนฯซิตี้ ในช่วงฤดูกาลหลังๆ โดยที่ อาร์เซนอล ยังคงลงทุนอย่างหนักในการซื้อนักเตะใหม่ หลังจากประสบความสำเร็จในฤดูกาลที่แล้ว แต่การถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎทางการเงิน 115 ครั้งของพรีเมียร์ลีกในช่วง 9 ฤดูกาลหลังสุดส่งผลต่อความสำเร็จ ซึ่งการตัดสินใจคาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้าโดยคณะกรรมการกำกับดูแลอิสระ ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของสโมสรของ ชีค มานซูร์
โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปฏิเสธการกระทำผิดใดๆ เสมอ ซึ่งการละเมิดที่ถูกกล่าวหานั้นรวมถึงการให้ข้อมูลทางการเงินที่ไม่ถูกต้องแก่พรีเมียร์ลีกเกี่ยวกับวิธีการจ่ายเงินของผู้เล่นและผู้จัดการทีมด้วย แต่ปัญหานอกสนามก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาไขว้เขวกับการโฟกัสแชมป์ลีกที่อยู่ตรงหน้า
หากย้อนกลับไปในช่วง 10 เกมสุดท้ายของฤดูกาล หลายสื่อได้กางโปรแกรมการแข่งขันที่เหลือของทั้ง ซิตี้, อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล เทียบให้เห็นภาพชัดๆ ซึ่งปรากฏว่า อาร์เซนอล เป็นทีมที่มีโปรแกรมเบาที่สุด เมื่อดูจากผลงานของคู่แข่งที่พวกเขาต้องเจอในเวลานั้น อีกทั้ง อาร์เซนอล ยังขยับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงในช่วงนั้นได้ด้วย
ถัดจากนั้น ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กลายเป็นทีมที่ต้องยกธงขาวไปก่อน จากความผิดพลาดที่ผลงานสะดุดบ่อยครั้ง นำไปสู่การปิดประตูลุ้นแชมป์ไปโดยปริยาย ส่วน อาร์เซนอล นี่ถือเป็นซีซั่นที่พวกเขาแทบไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ เมื่อยังคงโกยแต้มต่อเนื่อง ทว่าสิ่งที่ทำให้ ปืนใหญ่ ต้องพลาดแชมป์เป็นเพราะความยอดเยี่ยม, ประสบการณ์คว้าแชมป์ และการรับมือในสถานการณ์กดดันที่ดีกว่าของ แมนฯซิตี้ ที่ทำให้พวกเขาไม่มีความผิดพลาดเลย จนนำไปสู่การชูโทรฟี่แชมป์ 4 สมัยติดต่อกัน
แน่นอนว่า เอติฮัด สเตเดี้ยม กลายเป็นป้อมปราการแห่งความสำเร็จของ ซิตี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นี่เป็นฤดูกาลแรกที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำผลงานได้เต็มฤดูกาลโดยไม่พ่ายแพ้ในพรีเมียร์ลีกในรังเหย้า จากผลงานเกมเหย้าในลีก 19 นัด พวกเขาชนะ 14 นัด เสมอ 5 นัด เก็บไปได้รวมทั้งหมด 47 แต้ม
ซิตี้ ไม่แพ้ในบ้านในพรีเมียร์ลีกเลยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 ติดต่อกัน 30 เกม ขณะที่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ก็มีซีซั่นที่ดีอีกครั้ง โดย 27 ประตู ที่ทำได้ ทำให้เขาได้รับรางวัลดาวซัลโวรองเท้าทองคำครั้งที่สองในช่วงสองปีแรกในฐานะนักเตะซิตี้ ตามมาด้วยการทำลายสถิติ 36 ประตูในซีซั่นแรกของเขา โดยตอนนี้นักเตะวัย 23 ปีเป็นเพียงคนที่ 5 ที่คว้ารางวัลนี้ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน